นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1. บทนำและการนำมาใช้งาน

1.1 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ “นโยบาย”) กล่าวถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองหรือภายใต้การควบคุมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105562135522) (“สแทชอเวย์ ประเทศไทย”) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของประเทศไทย (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ได้ให้คำนิยามคำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ไว้ซึ่งในขณะนี้ หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”

1.2 โดยการใช้บริการของบริษัทภายใต้สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท (“บริการ”) การใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท การเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการโดยบริษัท (ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ www.stashaway.co.th หรือผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ) (“แพลตฟอร์ม”) การใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือการให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัทถือว่าท่านได้ตกลงยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว

1.3 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ไม่เป็นการยกเลิกหรือแทนที่ความยินยอมอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านอาจเคยให้บริษัทไว้ ทั้งนี้ การให้ความยินยอมของท่านต่อนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นสิทธิเพิ่มเติมจากสิทธิอื่น ๆ ที่บริษัทมีตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1.4 คำว่า “บริษัท” “ของบริษัท” หรือคำอื่น ๆ ที่มีความหมายนัยเดียวกันให้หมายความถึงสแทชอเวย์ ประเทศไทย ตลอดจนผู้รับช่วงสิทธิ ผู้สืบสิทธิ ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้ซื้อซึ่งสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของสแทชอเวย์ ประเทศไทย ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และการอ้างอิงถึงสแทชอเวย์ ประเทศไทย ให้หมายรวมถึงผู้รับช่วงสิทธิ ผู้สืบสิทธิ ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้ซื้อดังกล่าวด้วย คำว่า “ท่าน” “ของท่าน” หรือคำอื่น ๆ ที่มีความหมายนัยเดียวกันให้หมายความถึงบุคคลที่ใช้บริการ ใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท เข้าถึงแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของบริษัท หรือการให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัท และในบางบริบทให้หมายความรวมถึงตัวแทนส่วนบุคคลด้วย (แล้วแต่กรณี)

1.5 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามกฎหมายไทย โดยที่ไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อสิทธิใด ๆ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้ข้อพิพาท หรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการมีอยู่ ความสมบูรณ์ หรือการสิ้นสุดของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้หรือเอกสารที่ถูกอ้างถึงในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อยู่ภายใต้เขตอำนาจการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลไทย ในการนี้ ทั้งท่านและบริษัทตกลงที่จะให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจแต่เพียงศาลเดียวโดยปราศจากเงื่อนไขและโดยไม่สามารถเพิกถอนความตกลงนี้ได้

สรุป

ส่วนที่ 1 ระบุถึงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ สแทชอเวย์ ประเทศไทย โดยนโยบายนี้จะกล่าวถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองและภายใต้การควบคุมของบริษัท

บทสรุประบุถึงคำอธิบายแบบย่อเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บทสรุปนี้ไม่มีผลบังคับทางกฎหมายและไม่ครอบคลุมรายละเอียดทั้งหมด ท่านควรอ่านและทำความเข้าใจนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับเต็ม

หากมีข้อความที่ขัดแย้งกันระหว่างบทสรุปและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้ใช้บังคับตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ก่อนที่ท่านจะใช้บริการ ใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท เข้าถึงหรือใช้แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัท ท่านต้องยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

2.1 บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องหรือความสัมพันธ์กับท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้แทนทางกฎหมายของท่าน (“บุคคลที่เกี่ยวข้อง”) ตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมหรืออาจเก็บรวบรวม รวมถึง

(ก) ข้อมูลส่วนตัวสำหรับการติดต่อสื่อสาร รวมถึง ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ที่พักอาศัย และที่อยู่สำหรับการติดต่อ

(ข) ตัวอย่างลายมือชื่อ

(ค) อาชีพ การศึกษา และระดับรายได้

(ง) ข้อมูลระบุตัวตน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง วันเกิด สถานที่เกิด และข้อมูลอื่น ๆ สำหรับการพิสูจน์ตัวตน

(จ) ข้อมูลทางการเงินและทางธนาคาร (เช่น ข้อมูลสินทรัพย์สุทธิ รายได้ การใช้จ่าย ประวัติข้อมูลเครดิต บัญชีธนาคาร และรายการธุรกรรมทางธนาคาร บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์)

(ฉ) รูปภาพหรือบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างบริษัทกับท่าน

(ช) ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีและการเอาประกันภัย

(ซ) ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยง การลงทุน เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์ และ/หรือ ความสนใจทางด้านธุรกิจและสินทรัพย์

(ฌ) ความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้เปิดเผยกับบริษัท (เช่น คำติชมหรือการตอบแบบสำรวจของบริษัท)

(ญ) ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ รูปแบบ หรือข้อมูลที่เป็นการเฉพาะตัวอื่น ๆ

(ฎ) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายของท่าน (IP Address) และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขดังกล่าว

(ฏ) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อการให้บริการตามที่ท่านร้องขอ

(ฐ) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง กฎเกณฑ์ พระราชบัญญัติ ประกาศกระทรวง ประกาศ คำชี้แจง หนังสือเวียน เงื่อนไขใบอนุญาต คำแนะนำ คำร้องขอ ข้อกำหนด แนวทาง คำสั่ง ประมวล เอกสารข้อมูล บันทึกการปฏิบัติ คำบัญชา ข้อแนะนำ และ/หรือ คำวินิจฉัยของรัฐบาลแห่งชาติ รัฐ หน่วยงานภาครัฐส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน ตลาดหลักทรัพย์ฯ หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานกำกับดูแลตนเอง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล ธนาคารกลาง หน่วยงานสรรพากร หรือหน่วยงานอื่น ๆ ไม่ว่าในประเทศไทยหรือที่อื่นใด และไม่ว่าจะมีอำนาจบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ (รวมถึงความตกลงระหว่างรัฐบาลหรือหน่วยงานกำกับดูแลของทั้งสองรัฐหรือมากกว่านั้น) ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็นครั้งคราว (“กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง”) และการควบคุมภายในตลอดจนนโยบายการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท

สรุป

ส่วนที่ 2 กล่าวถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทเก็บหรืออาจเก็บรวบรวมจากท่าน

3. แหล่งที่มาของข้อมูล

3.1 บริษัทได้รับหรือจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่มาจากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้ (ตามความเหมาะสม) หรือแหล่งที่มาอื่น ๆ ที่บริษัทอาจเห็นสมควรเป็นครั้งคราว

(ก) ข้อมูลที่ท่านได้ให้หรือนำส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การติดต่อหรือเข้าทำสัญญาร่วมกับบริษัท ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ท่านให้ในการลงทะเบียนผู้ใช้งาน การให้ข้อมูล เกี่ยวข้องกับบัญชี ที่ท่านอาจเปิดใช้กับบริษัท การตอบคำถามรักษาความปลอดภัย การให้คำยืนยัน แถลงการณ์ หรือการกรอกแบบฟอร์ม หรือผ่านการใช้บริการใด ๆ ของบริษัท การเข้าถึงหรือเรียกดูแพลตฟอร์มของบริษัท เป็นต้น

(ข) ข้อมูลที่เป็นข้อมูลสาธารณะ หรือข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ และ

(ค) การติดต่อสื่อสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือทางวาจา หรือเอกสารอื่นที่ส่งถึงบริษัท ก่อนและในระหว่างการดำเนินการตามสัญญาหรือในระหว่างการดำเนินการก่อนเข้าทำสัญญากับท่าน

สรุป

ส่วนที่ 3 กล่าวถึงแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจได้รับมา

4. ฐานทางกฎหมาย / วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4.1 บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมถึงเพื่อให้บริการและเพื่อการปฏิบัติการบนแพลตฟอร์มและบริการที่บริษัทให้แก่ท่านบนฐานทางกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (“วัตถุประสงค์”)

(ก) การให้บริการตามที่ท่านร้องขอ

(ข) การใช้บริการ หรือการทำธุรกรรมใดๆ ในนามของท่านบนแพลตฟอร์มและการให้บริการบนแพลตฟอร์ม

(ค) การประเมินและประมวลผลคำขอเข้าใช้งาน คำสั่ง หรือคำร้องขอของท่าน

(ง) การติดต่อสื่อสารกับท่านรวมถึงการแจ้งข่าวสารการเปลี่ยนแปลงการให้บริการของบริษัท

(จ) การยืนยันตัวตนเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการกับท่าน

(ฉ) การตรวจสอบสถานะ คัดกรอง หรือตรวจสอบความน่าเชื่อถือตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือตามนโยบายและกระบวนการภายในของบริษัท

(ช) การจัดการบัญชีผู้ใช้ที่ท่านเปิดไว้กับบริษัท

(ซ) การดำเนินการด้านการชำระเงิน

(ฌ) การตอบคำถามหรือให้คำติชม

(ญ) เพื่อวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจงในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น

(ฎ) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามสมควรแก่การให้บริการของบริษัท

(ฏ) ใช้ในการตรวจจับการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ การกระทำฉ้อฉล การโจรกรรม หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

(ฐ) เพื่อเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของท่าน

(ฑ) เพื่อปรับปรุงเนื้อหา ลักษณะ และการใช้งานของแพลตฟอร์ม

(ฒ) เพื่อจัดการและพัฒนาสาธารณูปโภคและการดำเนินธุรกิจ

(ณ) การปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการภายในของบริษัท

(ด) เพื่อตอบหรือสอบสวนข้อร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาท

(ต) ตามที่กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ทำได้

(ถ) การบังคับตามข้อผูกพันที่มีต่อบริษัท

(ท) การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ รวมถึงการขอคำแนะนำจากที่ปรึกษากฎหมาย

(ธ) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ข้างต้น

(น) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามสมควรหรือได้รับอนุญาตให้ทำได้ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

(บ) เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือคำขอของหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

(ป) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำรายงานทางการเงิน การรายงานตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การรายงานต่อฝ่ายจัดการ การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบ และการเก็บรักษาข้อมูล

(ผ) เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับบริการที่บริษัทอาจเสนอให้แก่ท่านเมื่อท่านให้ความยินยอม

4.2 บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ต่อเมื่อบริษัทมีฐานทางกฎหมายสำหรับการใช้ดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งฐานทางกฎหมายดังกล่าวรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

(ก) บริษัทมีความจำเป็นต้องบรรลุผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย

(ข) บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน

(ค) บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย

(ง) การใช้ข้อมูลของท่านเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันหรือตรวจจับอาชญากรรม และ

(จ) บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน

สรุป

ส่วนที่ 4 กล่าวถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการให้บริการหรือการให้ใช้แพลตฟอร์มของบริษัทแก่ท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและเพื่อการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ต่อเมื่อบริษัทมีฐานทางกฎหมายสำหรับการใช้เท่านั้น ซึ่งฐานทางกฎหมายนี้รวมถึง การบรรลุผลประโยชน์ทางธุรกิจที่โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ประมวลผลข้อมูลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน ประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันหรือตรวจจับอาชญากรรม และการได้รับความยินยอมจากท่าน

5. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นครั้งคราวให้แก่กรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้แทน ตัวแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะพำนักอยู่ในประเทศไทยหรือที่อื่นใด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น ซึ่งรวมถึง การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

(ก) กรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้แทน ตัวแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายใด ๆ ของบริษัท

(ข) ผู้ถือหุ้น หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง และผู้รับช่วงสิทธิหรือผู้รับโอนสิทธิของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนกรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้แทน ตัวแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายของบุคคลดังกล่าว

(ค) ที่ปรึกษาทางวิชาชีพ ที่ปรึกษา และผู้ตรวจสอบของบริษัท

(ง) ผู้ให้บริการ ตัวแทน ผู้รับจ้าง ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ผู้จัดหา หรือบุคคลที่สามซึ่งบริษัทอาจมอบหมายให้เป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มหรือบริการของบริษัทเป็นครั้งคราว ตลอดจนกรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้แทน ตัวแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายของบุคคลดังกล่าว

(จ) ผู้รับจ้างช่วงซึ่งผู้ให้บริการ ตัวแทน ผู้รับจ้าง ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้จัดหาของบริษัทได้มอบหมายให้เป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มหรือบริการของบริษัทเป็นครั้งคราว ตลอดจนกรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้แทน ตัวแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายบุคคลดังกล่าว

(ฉ) บุคคลซึ่งรับโอนหรืออาจรับโอนสิทธิหรือหน้าที่บางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทภายใต้สัญญาใด ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน และสัญญาดังกล่าวหรือบางส่วนได้ถูกหรืออาจถูกโอนไปยังบุคคลนั้น

(ช) บุคคลใด ๆ ซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพของท่าน

(ซ) หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ตราบเท่าที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง หรือซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

(ฌ) ภายใต้คำสั่งของหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง (โดยไม่คำนึงถึงเหตุแห่งคำสั่งนั้น หรือไม่ว่าจะเป็นคำสั่งศาลหรือไม่ก็ตาม)

(ญ) บุคคลใด ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้นในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ

(ฎ) บุคคลใด ๆ ซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบริษัทมีหน้าที่ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการเปิดเผยข้อมูลให้

ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลในกรณีใด ๆ ภายใต้ข้อ (ก) ถึง (ง) บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้ผู้ได้รับข้อมูลมีหน้าที่ในการเก็บรักษาความลับของข้อมูลเช่นเดียวกันกับบริษัท

สรุป

บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นตามวัตถุประสงค์ในส่วนที่ 4

6. การถอนความยินยอม

อย่างไรก็ตาม ท่านมีสิทธิที่จะ

6.1 ท่านสามารถถอนความยินยอมในการรับข้อมูลข่าวสารด้านการตลาดจากบริษัทได้ทุกเมื่อ หากท่านประสงค์จะทำการยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าว โปรดคลิกปุ่ม “Unsubscribe” ที่มีอยู่บนจดหมายข่าว/อีเมลการตลาดทุกฉบับที่ท่านได้รับจากบริษัท หรือสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่ dataprotection@stashaway.com.

6.2 ท่านอาจถอนความยินยอมและขอให้บริษัทหยุดการเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด หรือทั้งหมดตามที่ปรากฎในส่วนที่ 4 โดยการส่งคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร หรือทางอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

6.3 เมื่อบริษัทได้รับคำขอถอนความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากท่านแล้ว บริษัทอาจใช้เวลาตามความเหมาะสม (ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคำขอ และผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน) เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน และเพื่อให้บริษัทสามารถแจ้งท่านถึงผลกระทบต่อบริษัทรวมถึงผลทางกฎหมายที่อาจกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของท่านที่มีต่อบริษัท โดยทั่วไปบริษัทจะใช้เวลาดำเนินการตามคำขอของท่านภายในสิบ (10) วันทำการนับแต่ได้รับคำขอ

6.4 แม้ว่าบริษัทเคารพการถอนความยินยอมของท่าน โปรดทราบว่า บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ต่อไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะและขอบเขตคำขอของท่าน ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนการดำเนินการตามคำขอของท่าน หากท่านยังคงต้องการถอนความยินยอม โปรดแจ้งบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรตามวิธีการที่กำหนดในข้อ 6.2 ข้างต้น

6.5 โปรดทราบว่าการถอนความยินยอมไม่กระทบถึงสิทธิของบริษัทในการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป ในกรณีที่การเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ต้องได้รับอนุญาตหรือจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สรุป

ท่านอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเพื่อขอเข้าถึงหรือขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

7. การเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 ท่านอาจขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บไว้ หรือขอตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ หากท่านต้องการ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่ dataprotection@stashaway.com

7.2 โปรดทราบว่าการขอเข้าถึงข้อมูลอาจมีค่าธรรมเนียมตามปกติ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงค่าธรรมเนียมก่อนการดำเนินการตามคำขอของท่าน

7.3 บริษัทจะตอบกลับคำขอของท่านภายในระยะเวลาตามสมควร โดยทั่วไปการตอบกลับของบริษัทจะกระทำภายในสามสิบ (30) วันทำการ หากบริษัทไม่สามารถตอบกลับคำขอของท่านภายในสามสิบ (30) วันภายหลังจากที่ได้รับคำขอของท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสามสิบ (30) วันถึงระยะเวลาที่เราจะตอบกลับคำขอของท่าน หากบริษัทไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดแก่ท่าน หรือไม่สามารถแก้ไขตามคำขอของท่าน บริษัทจะแจ้งถึงเหตุผลดังกล่าวให้ท่านทราบ (เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) และจะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

สรุป

ส่วนที่ 7 กำหนดให้ท่านสามารถเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

8. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 เพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากการเข้าถึง เก็บ ใช้ เปิดเผย คัดลอก เปลี่ยนแปลง จำหน่าย หรือความเสี่ยงอื่นที่คล้ายคลึงกัน บริษัทได้จัดให้มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ทั้งทางกายภาพและทางเทคนิค เช่น

(ก) การลดการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

(ข) การยืนยันตัวตน และการเข้าคุมการเข้าถึง (เช่น มาตรการรหัสผ่านที่เหมาะสม การเปิดเผยข้อมูลเฉพาะที่จำเป็น เป็นต้น)

(ค) การเข้ารหัสของข้อมูล

(ง) การจัดทำข้อมูลนิรนาม

(จ) การอัพเดทโปรแกรมป้องกันไวรัส

(ฉ) การซ่อมบำรุงระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เป็นประจำ

(ช) บุคคลใด ๆ ซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพของท่าน

(ช) การลบสื่อที่จัดเก็บในอุปกรณ์อย่างปลอดภัยก่อนการทิ้ง

(ฌ) การใช้งานชุดรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP)/ การยืนยันตนสองขั้นตอน (2FA) / การยืนยันตนหลายขั้นตอน (MFA) เพื่อป้องกันการเข้าถึง และ

(ญ) การตรวจสอบความปลอดภัยและทดสอบการปฏิบัติการเป็นประจำ

8.2 ท่านควรตระหนักว่า ไม่มีวิธีการการส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือการจัดเก็บทางอิเล็กทรอนิกส์ใดที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ แม้ว่าการป้องกันความปลอดภัยจะไม่สามารถการันตีได้ บริษัทพยายามป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลของท่าน โดยบริษัทจะคอยตรวจสอบ และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความปลอดภัยในข้อมูลของบริษัทเสมอ

สรุป

บริษัทได้จัดให้มีการบริหารจัดการ ทั้งทางกายภาพและทางเทคนิค เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

9. ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล

ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นอยู่กับปริมาณของข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัท ท่านควรแจ้งบริษัทโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากมีข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทตั้งใจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็น และเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในข้างต้น หรือตามที่กำหนดหรือได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สรุป

ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นอยู่กับปริมาณของข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัท ท่านควรแจ้งบริษัทโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากมีข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

10. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจโอน เก็บรักษา ประมวลผล และ/หรือ จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายนอกประเทศไทยเท่าที่จำเป็น โดยบริษัทจะปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หากประเทศผู้รับไม่ได้มีระดับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าการโอนข้อมูลนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งกฎหมาย และจะจัดให้มีมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สรุป

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

11. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไวตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวยังคงมีผลอยู่ และจนกว่าจะไม่มีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอื่น ๆ หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและตามนโยบายหรือคู่มือในเรื่องการเก็บรักษาข้อมูลของสแทชอเวย์ ประเทศไทย

สรุป

บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

12. สิทธิของท่าน

อย่างไรก็ตาม ท่านมีสิทธิที่จะ

12.1 ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท

12.2 ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้อง

12.3 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านได้หรือใช้กันโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติซึ่งสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีอัตโนมัติ

12.4 คัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

12.5 ขอให้บริษัทลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ทั้งนี้ ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทไม่มีฐานทางกฎหมายในการประมวลผลอีกต่อไป

12.6 ขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

12.7 ถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัท และ

12.8 ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัทประมวลผลของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้

หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่ เลขที่ 725 อาคารเอส เมโทร ชั้น 18 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ที่อยู่อีเมล dataprotection@stashaway.co.th หรือ โทร +662 821-6888 อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิดังกล่าวอาจมีข้อจำกัดบางประการภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และในบางกรณีบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่าน เช่น ในกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธิของท่านเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น ในกรณีดังกล่าว บริษัทต้องปฏิเสธการใช้สิทธิของท่าน โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลให้ท่านทราบ

สรุป

ท่านอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเพื่อขอเข้าถึงหรือขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

13. การให้ข้อมูลส่วนบุคคล

13.1 เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นประการอื่นภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรวบรวมแต่เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัทเท่านั้น การใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท เข้าถึงแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัทถือว่าท่านได้อ่านและตกลงให้เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ดังนั้น หากท่านไม่ประสงค์จะให้บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดอย่าดำเนินการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ โดยการติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อในข้อ 13 ด้านล่าง หากบริษัทไม่ได้รับแจ้งเป็นประการอื่นจากท่าน บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บนพื้นฐานว่าท่านได้ตกลงในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ทั้งในปัจจุบันและที่ผ่านมาแล้ว

13.2 บริษัทอาจปฏิเสธการให้บริการแก่ท่านได้ หากท่านไม่ตกลงให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ในข้างต้น

13.3 ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท บริษัทจะสันนิษฐาน (โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์) ว่าบุคคลดังกล่าวได้ตกลง และ/หรือ ให้ความยินยอมต่อการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้แล้ว

สรุป

ท่านตกลงให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านได้ทุกเมื่อโดยการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ในกรณีที่ท่านไม่ตกลงตามข้อกำหนดข้างต้น บริษัทอาจปฏิเสธการให้บริการแก่ท่านได้ หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านจะต้องทำให้มั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวได้ให้ความยินยอมต่อการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้แล้ว

14. การใช้คุกกี้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

14.1 แพลตฟอร์ม เว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของบริษัท (“แอพพลิเคชั่น”) มีการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ คุกกี้คือแฟ้มข้อความขนาดเล็กที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ ระบบ หรือโทรศัพท์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือใช้งานแอพพลิเคชั่น คุกกี้จะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานและการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือการใช้งานแอพพลิเคชั่น เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายของท่าน (IP Address) วิธีการเข้าถึงเว็บไซต์ (เช่น ผ่านโปรแกรมค้นหา หรือลิงก์ (link) เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์อื่น) และวิธีการใช้งานภายในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น บริษัทใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้งานอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นของบริษัท เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่าง ๆ ตามการตั้งค่าของท่าน เพื่อติดตามประวัติการใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท และเพื่อรวบรวมสถิติการใช้งานบนเว็บไซต์ และ/หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่นของบริษัท

14.2 พิกเซลแท็ก (pixel tag) หรือที่เรียกว่า เว็บบีคอน (web beacon) เป็นแท็กที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บเพจบนเว็บไซต์ของบริษัท แต่ไม่ได้อยู่บนคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยทั่วไปจะใช้พิกเซลแท็กร่วมกับการใช้คุกกี้ และใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน

14.3 ท่านอาจตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อปิดการทำงานของคุกกี้ได้ ซึ่งจะเป็นการปิดการทำงานของพิกเซลแท็กซึ่งติดตามการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านด้วย ท่านสามารถลบคุกกี้บางตัวที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือของท่านได้ อย่างไรก็ตาม หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้และพิกเซลแท็ก ท่านอาจไม่สามารถใช้งานคุณลักษณะ (Features) หรือตัวเลือก (Options) บางประการบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัทได้

14.4 บริษัทยังใช้โปรแกรมวิเคราะห์ เช่น Google Analytics เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์สำหรับการจัดการและปรับปรุงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ แพลตฟอร์ม และ/หรือ บริการของบริษัท ลักษณะเฉพาะ (Features) ของ Google Analytics ที่บริษัทอาจใช้นั้นรวมถึง Remarketing with Google Analytics Google Display Network Impression Reporting และ Google Analytics Demographics and Interest Reporting ดังนั้น ข้อมูลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวมสำหรับรายงานต่าง ๆ เช่น รายงานความประทับใจ รายงานตามสถิติประชากร รายงานความสนใจ และใช้สำหรับปรับการโฆษณาออนไลน์ของบริษัทให้สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านอาจเข้าชม https://www.google.com/policies/privacy/partners เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านผ่าน Google Analytics

14.5 บริษัทและผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (third-party vendors) ของบริษัท ซึ่งรวมถึง Google ใช้คุกกี้ของบุคคลที่หนึ่ง (first-party cookies) (เช่น คุกกี้ของ Google Analytics) หรือ คุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งรายอื่น (other first-party identifiers) ร่วมกันกับการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม (third-party cookies) (เช่น คุกกี้โฆษณาของ Google) หรือคุกกี้ของบุคคลที่สามรายอื่น (other third-party identifiers) เพื่อแจ้ง วิเคราะห์ ปรับปรุงให้เหมาะสม และนำเสนอโฆษณาโดยขึ้นอยู่กับความสนใจ การค้นหา และลักษณะการใช้งานที่ผ่านมาของท่านเมื่อเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และแพลตฟอร์ม และเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์วิจัยตลาด เช่น การรายงานความประทับใจ การตอบสนองของท่านต่อโฆษณาซึ่งสัมพันธ์กับการใช้งานเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และแพลตฟอร์ม เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (third-party vendors) อาจแสดงโฆษณาของบริษัทบนเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ บริษัทไม่สนับสนุนหรือรับรองวัตถุประสงค์ สาเหตุ หรือคำพรรณนาบนเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถืออื่นซึ่งแสดงโฆษณาของบริษัท

14.6 ท่านอาจควบคุมการแสดงโฆษณา ปิดการแสดงโฆษณาบางตัว เรียนรู้วิธีการที่ระบบเลือกแสดงโฆษณาแก่ท่าน หรือยกเลิกการใช้ Google Analytics สำหรับ Display Advertising โดยการตั้งค่าที่ Google Ad Settings (https://www.google.com/settings/u/0/ads/authenticated) ท่านสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง Google Analytics Opt-Out Browser Add-on ได้ที่ https://tools.google.com/dlpage/gaoptout เพื่อยกเลิกการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลโดย Google Analytics โดยหากท่านเลือกที่จะยกเลิก ท่านจะไม่ถูกประมวลผลด้านโฆษณาออนไลน์หรือวิเคราะห์ทางการตลาดโดย Google Analytics อีก และท่านจะไม่ได้รับโฆษณาที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการค้นหาและความพึงพอใจในการใช้งานของท่านอีกต่อไป

สรุป

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านคุกกี้บนแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ บริษัทใช้โปรแกรมวิเคราะห์ เช่น Google Analytics เพื่อจัดการและปรับปรุงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ แพลตฟอร์ม และ/หรือ บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้ข้อมูลด้านพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์และลักษณะการใช้งานที่ผ่านมาของท่านจาก Google Analytics และข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเคยมอบให้กับบริษัทตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

15. เว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นซึ่งไม่ได้ดำเนินการโดยบริษัท นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จะใช้กับเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ แพลตฟอร์ม และ/หรือ บริการของบริษัทเท่านั้น ในการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบุคคลที่สามเหล่านี้ ท่านควรอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบังคับใช้กับการใช้เว็บไซต์ของบุคคลที่สามเหล่านั้นด้วย

สรุป

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ไม่ใช้กับเว็บไซต์ของบุคคลที่สามที่อาจเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของบริษัท

16. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

บริษัทอาจแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งการแก้ไขดังกล่าวบนเอกสารนี้ให้ท่านทราบ ถ้าท่านยังเข้าใช้บริการของบริษัท ใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท เข้าถึงแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของบริษัท และ/หรือ ให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัทต่อไป บริษัทจะถือว่าท่านได้ตกลงยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นโดยปราศจากข้อสงวนสิทธิใดๆ ทั้งนี้ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใหม่ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมล่วงหน้าจากท่าน

สรุป

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อาจถูกแก้ไขได้ หากท่านยังเข้าใช้บริการของบริษัท ใช้บัญชีผู้ใช้งานที่ได้เปิดไว้กับบริษัท เข้าถึงแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของบริษัท หรือให้ข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารกับบริษัท บริษัทจะถือว่าท่านได้ตกลงกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นแล้วโดยปราศจากข้อสงวนสิทธิใดๆ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใหม่ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมล่วงหน้าจากท่าน

17. ติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่ เลขที่ 725 อาคารเอส เมโทร ชั้น 18 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ที่อยู่อีเมล dataprotection@stashaway.co.th หรือ โทร +662 821-6888

สรุป

ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้