ขอแนะนำ Thematic Portfolio
ลงทุนแบบ Thematic ด้วย ETF จาก ARK Invest, iShares by BlackRock, Global X และบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำอีกมากมาย
StashAway ประเทศไทย ขอแนะนำ Thematic Portfolio ผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ที่จะทำให้คุณได้ลงทุนในเทรนด์ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก บนระดับความเสี่ยงที่คุณควบคุมได้
การลงทุนแบบ Thematic คือ การลงทุนในเทรนด์แห่งอนาคตซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจโลก จึงเป็นการลงทุนในระยะยาวเพราะกว่าที่นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนเทรนด์เหล่านั้นจะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานให้เห็นได้เป็นรูปธรรมเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยระยะเวลา ดังนั้น การลงทุนแบบ Thematic จึงเป็นการลงทุนในเทรนด์ที่คุณเชื่อมั่นว่ามีศักยภาพเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ในระยะยาว
StashAway จึงคัดสรร 4 ธีมการลงทุนที่เราเชื่อว่าเป็นเทรนด์แห่งอนาคตที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาเปิดตัวพร้อมกัน คือ
- Technology Enablers เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
- The Future of Consumer Tech นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์คนทั่วโลก
- Healthcare Innovation นวัตกรรมที่จะพลิกโฉมวงการแพทย์
- Environment and Cleantech เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
โดยทุกธีมของ Thematic Portfolio ลงทุนใน ETF ที่คัดสรรจากบริษัทจัดการกองทุนระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนแบบ Thematic โดยเฉพาะ อย่าง ARK Invest, iShares by BlackRock และ Global X
การลงทุนแบบ Thematic ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาวมากขึ้นเนื่องจากมองว่าเป็นอีกโอกาสที่สร้างความมั่งคั่งได้ในอนาคต โดยในปี 2018 มูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนแบบ Thematic ทั่วโลก มีอัตราเติบโตสูงขึ้น 37% ต่อปี และในปี 2020 เพียงปีเดียว มูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนแบบ Thematic มีอัตราเติบโตสูงขึ้นกว่า 77% นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Thematic ยังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายสุทธิของกองทุนหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ปี 2017
Thematic Portfolio ของ StashAway ลงทุนในกลุ่มธุรกิจอะไรบ้าง
ธีม Technology Enablers
ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ:
- AI
- Blockchain
- Cloud computing
- Robotics
- Semiconductors
ธีม The Future of Consumer Tech
ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ:
- E-commerce
- FinTech
- เกมมิ่ง
- นวัตกรรมยานยนต์
- อินเทอร์เน็ต
- โซเชียลมีเดีย
ธีม Healthcare Innovation
ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ:
- ไบโอเทค
- จีโนมิกส์
- อุปกรณ์การแพทย์
- เภสัชกรรม
ธีม Environment and Cleantech
ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ:
- พลังงานสะอาด
- เทคโนโลยีการจัดการน้ำ
- ระบบกักเก็บพลังงานและ Smart Grid
- การเงินสีเขียว
- Waste management
ธีม Technology Enablers ลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ ‘Invisible’ หรือ อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็วและจะกลายมาเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของทุกชีวิตในอนาคต เช่น บล็อกเชน ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โรโบติกส์ และ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
ธีม The Future of Consumer Tech ลงทุนในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ผู้คนและจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกในที่สุด ครอบคลุมตั้งแต่ FinTech แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ กลุ่มธุรกิจ E-commerce เกมมิ่ง E-Sport อินเทอร์เน็ตและนวัตกรรมยานยนต์ อย่างรถยนต์ไร้คนขับและรถยนต์ไฟฟ้า
ธีม Healthcare Innovation ลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยีในการรักษาโรคแต่รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เราแข็งแรงขึ้น ฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น อย่างเช่น เทคโนโลยีชีวภาพหรือไบโอเทค นวัตกรรมด้านเภสัชกรรม ด้านอุปกรณ์การแพทย์ และด้านจีโนมิกส์ ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์ DNA หรือโครงสร้างพันธุกรรม
ธีม Environment and Cleantech ลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนและเทคโนโลยี Low-carbon ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเร่งด่วนของมนุษยชาติอย่าง ‘สภาวะโลกร้อน’ จึงครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มธุรกิจด้าน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม นวัตกรรมเพื่อกักเก็บพลังงาน อย่างแบตเตอรีลิเธียมไอออน ระบบบำบัดน้ำเสีย และการรีไซเคิล ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญร่วมกัน คือ ยับยั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนบนโลกให้ได้อย่างยั่งยืน
ภายใต้ทั้ง 4 ธีมการลงทุน StashAway เลือกลงทุนใน ETF จากบริษัทจัดการกองทุนแบบ Thematic ระดับโลก โดย ETF แต่ละตัวจะมีการกระจายการลงทุนในบริษัทจำนวนมากเพื่อให้สามารถบริหารความเสี่ยงและพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่นในกรณีที่เกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐ การควบรวมบริษัท หรือจากปัจจัยอื่นๆ การลงทุนในแต่ละธีมกับ StashAway จึงเท่ากับพอร์ตของคุณได้กระจายการลงทุนไปยังหลายกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมในกว่าร้อยบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตและอาจก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำของโลก
ลงทุนตามธีมที่คุณเชื่อมั่น บนระดับความเสี่ยงที่คุณควบคุมได้
การลงทุนแบบ Thematic มักจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดในระยาว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน ที่ StashAway เราเชื่อว่าการบริหารความเสี่ยงที่ดี คือ หัวใจสำคัญในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น พอร์ตแบบ Thematic ของเราจึงมีการผสมผสาน Balancing asset หรือ ‘สินทรัพย์ปรับสมดุล’ ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่นอกธีมการลงทุน เช่น หุ้นกู้ ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรรัฐบาลที่อ้างอิงตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาสมดุลของพอร์ตให้แม่นยำตรงกับระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละรายกำหนดไว้อยู่เสมอ คุณจึงสามารถลงทุนในธีมที่คุณเชื่อมั่นกับเราได้อย่างมั่นใจ
ทั้งนี้ พอร์ตแบบ Thematic ที่ StashAway มีระดับความเสี่ยงให้เลือก 7 ระดับ โดยในแต่ละระดับอาจมีสัดส่วนการลงทุนใน ‘สินทรัพย์ตามธีม’ และ ‘สินทรัพย์ปรับสมดุล’ ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะปรับสัดส่วนให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจและให้ตรงกับค่า SRI ที่คุณกำหนดไว้เสมอ
Thematic Portfolio เหมาะกับแผนการลงทุนของคุณอย่างไร
พอร์ตแบบ Thematic เหมาะที่จะเป็นพอร์ตเสริมเพื่อเพิ่มการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นจากพอร์ตหลักที่คุณมี และเราไม่แนะนำให้นำมาทดแทนพอร์ตหลักของคุณเนื่องจากการลงทุนแบบ Thematic มักมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนโดยทั่วไป
ทั้งนี้ การลงทุนใน Thematic Portfolio ของเรา คุณสามารถเลือกระดับความเสี่ยงหรือค่า SRI ได้ตั้งแต่ 20% ถึง 45% ซึ่งสูงกว่าพอร์ตการลงทุนทั่วไปของเรา ซึ่งมีค่า SRI ที่ 6.5% ถึง 36%