Weekly Buzz: Emerging Market กำลังน่าจับตามอง
แชร์บทความนี้
อยากอ่านเพิ่ม?
เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ
📈 3 เหตุผล ทำไมการลงทุนในหุ้น Emerging Market ถึงน่าสนใจ
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจา ‘เพดานหนี้’ ของสหรัฐกลายเป็นปัจจัยล่าสุดที่ทำให้หุ้นกลุ่ม Emerging Market (EM) หรือตลาดเกิดใหม่กลับมาน่าดึงดูดอีกครั้ง แต่ที่จริงแล้ว EM มีความน่าสนใจมากกว่านั้น
เรามี 3 เหตุผลที่ควรพิจารณาตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐและยุโรปในการลงทุนระยะยาว:
- การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลงและความเสี่ยงในการเกิด Recession (รวมทั้งค่าเงิน USD ที่อาจอ่อนค่าลง) จะส่งผลให้นักลงทุนหันมากระจายการลงทุนในตลาด EM มากขึ้น
- แนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและเทรนด์การกระจายฐานการผลิตจะส่งผลดีต่อบริษัทต่างๆ ใน EM โดยข้อมูลจากบริษัท Schroders ระบุว่าประเทศอินเดีย เวียดนาม โปแลนด์ รวมถึงไทย เป็นตลาดที่ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนมากที่สุดในสายตาของบริษัทจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อไม่ให้ฐานการผลิตกระจุกตัวในประเทศหนึ่งเกินไป
- ปัจจุบัน มูลค่าหุ้นใน EM ยังไม่สูงมาก และซื้อขายในราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
จากกราฟด้านบนโดย Schroders จะเห็นว่าผลตอบแทนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (DM) โดยส่วนใหญ่ ถูกขับเคลื่อนจากค่า P/E (แถบฟ้า) ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ ค่า P/E ของหุ้นกลุ่ม EM ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักถึงแม้มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (แถบเหลือง)
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาด EM อาจต้องระวังไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะในประเทศหลัก เช่น จีน และไต้หวัน เพราะอาจยิ่งเพิ่มความผันผวนให้กับพอร์ตของคุณ ดังนั้น การลงทุนในหุ้น EM จึงควรกระจายลงทุนในหลายประเทศในกลุ่มนี้
ถ้าสนใจลงทุนใน EM ทำอย่างไรได้บ้าง?
- พอร์ต General Investing ของเรา มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ใน EM
- เพิ่ม Exposure ใน EM ด้วยการลงทุนผ่าน Flexible Portfolio ซึ่งมี ‘ตลาดเกิดใหม่’ และ ‘ตลาดเกิดใหม่ (ESG)’ อยู่ภายใต้สินทรัพย์ประเภท ‘หุ้นทั่วโลก’ โดยคุณสามารถเลือกและกำหนดสัดส่วนการลงทุนได้เอง
เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize
ตามติดเรื่อง ‘เพดานหนี้’ สหรัฐกันอีกครั้ง
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐ Joe Biden สามารถเจรจาเพื่อขยับเพดานหนี้ได้สำเร็จ โดยข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย. ตามเวลาไทย ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากเหลือเพียงขั้นตอนการเสนอร่างเพื่อลงมติในสภา Congress ซึ่งหากการผ่านมตินี้เกิดขึ้นก่อนกำหนด X-date รัฐบาลจะสามารถดำเนินการชำระหนี้ต่อไปได้
แต่คำถามสำคัญต่อมา คือ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้? ซึ่งเราจะติดตามต่ออย่างใกล้ชิดว่าการผ่านมติครั้งนี้จะนำไปสู่สภาวะการลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐจะสามารถกลับมาออกพันธบัตรรัฐบาลได้อีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพคล่องและตลาดโดยรวม
🎓ศัพท์โลกการลงทุน: Emerging Market
Emerging Market (EM) คือ ตลาดเกิดใหม่ เปรียบได้กับบริษัทสตาร์ทอัพในโลกธุรกิจ ซึ่งหมายถึงตลาดหรือประเทศที่ระบบเศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการเติบโตสูง มีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น รวมถึงระบบเศรษฐกิจกำลังได้รับการปฏิรูป โดยประเทศเหล่านี้ต่างเร่งสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองท่ามกลางประเทศคู่แข่งรายใหญ่ต่างๆ เพื่อให้เข้าตานักลงทุนจากต่างประเทศ
ปัจจุบัน อินเดีย, เม็กซิโก, เวียดนาม, ซาอุดีอาระเบีย, จีน และบราซิล ถือเป็นประเทศ EM ดาวรุ่งที่น่าจับตา
แชร์บทความนี้
อยากอ่านเพิ่ม?
เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ
