Weekly Buzz: ✨ทองคำ ‘All-time High’ อีกครั้ง
ทองคำสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งที่ 2,730 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30% แล้วในปีนี้ โดยการพุ่งขึ้นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางความทนทานของเศรษฐกิจสหรัฐและ Yield ของพันธบัตรสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งโดยปกติแล้ว ทั้ง 2 ปัจจัยมักทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง
อะไรคือแรงขับเคลื่อนราคาทองคำ?
หากเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะ Recession และอัตราดอกเบี้ยขาลงทำให้ Yield ของสินทรัพย์อื่นๆ ลดลง สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่การที่ทองคำยังคงน่าดึงดูดน่าจะมาจากความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐที่กำลังจะมาถึง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก
ธนาคารกลางหลักของโลก เช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงแล้วในปีนี้ และตลาดยังคาดการณ์ว่ามีโอกาส 99% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในเดือน พ.ย. โดยดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลด Opportunity Cost ในการถือครองทองคำ เพราะทองคำไม่ได้มีการจ่ายดอกเบี้ย
สำหรับโลหะมีค่า ไม่ได้มีแค่ทองคำที่กำลังพุ่งสูงขึ้น แต่แร่เงินก็กำลังปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยราคาแร่เงินสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปีที่ 34 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ Safe-haven มากขึ้น
Key Takeaway
ตามสถิติแล้ว พอร์ตการลงทุนแบบ Classic ที่ประกอบไปด้วยหุ้นและตราสารหนี้มักช่วยถ่วงดุลกันได้ดี เพราะตราสารหนี้จะช่วยชดเชยผลตอบแทนหากหุ้นปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ปี 2022 ได้ให้บทเรียนแก่เราว่าเมื่อใดที่เศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อสูงเกิดขึ้นพร้อมกัน หุ้นและตราสารหนี้ก็อาจทำผลตอบแทนได้ไม่ดีทั้งคู่
ทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนหันไปหาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ Safe-haven ในช่วงที่สินทรัพย์อื่นๆ เผชิญอุปสรรค โดยการนำทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนโดยรวมสามารถเพิ่มความมั่นคงและเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตโดยรวมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดกำลังเผชิญความผันผวน ซึ่งอันที่จริงแล้ว ทองคำได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พอร์ตของเรามีผลตอบแทนที่ดีในปีนี้
ทั้งนี้ หากคุณต้องการลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนที่ดีและมีทองคำในสัดส่วนที่เหมาะสม พอร์ต General Investing ของเราอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีการกระจายการลงทุนที่ดีในหลากหลายสินทรัพย์ กลุ่มธุรกิจและภูมิภาค ที่สำคัญ ยังมีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ให้เหมาะสมภับภาวะเศรษฐกิจโดยอัตโนมัติด้วย แต่หากคุณอยากลงทุนในทองคำโดยตรง Flexible Portfolio ของเราอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยคุณสามารถลงทุนด้วยเงินเท่าไหร่ก็ได้และยังมีค่าธรรมเนียมต่ำ โดย ETF ทองคำที่เราคัดเลือกมามีมูลค่าสูงที่สุดในโลกและได้รับการค้ำประกันด้วยทองคำแท่งที่เก็บรักษาไว้กับธนาคาร HSBC และ JPMorgan Chase
📰 ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ยุโรปเตรียมลงจอดอย่างนุ่มนวล
ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ ECB ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน โดยครั้งล่าสุดนี้ ECB ตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เพื่อรับมือการบริโภคที่อ่อนตัวลง การชะลอตัวของภาคการผลิตในเยอรมนี และการเตรียมลดงบประมาณของรัฐบาลฝรั่งเศส
ECB ยังคงต้องทำงานอย่างหนักต่อไป แม้จะควบคุมเงินเฟ้อไว้ได้แล้ว แต่ปัจจุบันยังต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเงินเฟ้อในยุโรปได้ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่เศรษฐกิจระดับภูมิภาค เช่น ยุโรป มักมีความซับซ้อนมากกว่านั้น
ต้องยกเครดิตให้กับการออกนโยบายอย่างระมัดระวังของ ECB ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายายามในการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพโดยไม่สร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ยุโรปยังเผชิญกับความท้าทายเฉพาะตัวหลายประการ เช่น ความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะค่าจ้างแรงงานที่ค่อนข้างสูง ทำให้ภูมิภาคนี้ค่อนข้างเสียเปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ในขณะที่ประธาน ECB Christine Lagarde ได้เน้นย้ำว่า แม้เป้าหมายหลักของ ECB คือ การพาเศรษฐกิจยุโรปลงจอดแบบ ‘Soft Landing’ (อ่านเพิ่มเติมได้ใน Simply Finance) แต่การจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตแบบยั่งยืนนั้น อาจต้องใช้มากกว่าการปรับนโยบายการเงินเพียงอย่างเดียว
เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize
🎓 Simply Finance: Soft Landing
Soft Landing ในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง การชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจโดยไม่ทำให้เกิด Recession ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ธนาคารกลางใช้มาตรการต่างๆ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนนักบินที่ค่อยๆ นำเครื่องบินลงจอดอย่างราบรื่น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับต่ำ และสร้างเสถียรภาพให้ตลาด