Weekly Buzz: แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีน 1 ล้านล้านหยวน

03 November 2023

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนได้ประกาศแผนออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวนหรือราว 137,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหลังจากข่าวนี้ออกไป ดัชนี Hang Seng ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 2% และกลับมาอยู่เหนือระดับจิตวิทยาที่ 17,000 จุด

แต่หากมองให้ละเอียด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (อ่านเพิ่มเติมได้ใน ศัพท์โลกการลงทุน) ครั้งนี้อาจไม่มากอย่างที่เห็น

ผลที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า

ลำดับแรก เงินที่ได้จากการขายพันธบัตรจะถูกนำไปใช้ซ่อมแซมสาธารณูปโภคในพื้นที่ประสบภัยหลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ยังถือว่าไม่มากในระดับประเทศ เนื่องจากยังมีขนาดไม่ถึง 1% ของเศรษฐกิจจีนโดยรวม แต่รัฐบาลจีนมักจะเลือกใช้นโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แทนที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพียงครั้งเดียว

ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมักมีแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณอย่างระมัดระวัง เห็นได้จากหนี้สาธารณะจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของ GDP ซึ่งแม้จะถือว่าไม่ต่ำ แต่ก็น้อยกว่า Big Spender อย่าง อิตาลีที่ 140% และสหรัฐที่ 110% พอสมควร

ในระหว่างนั้น ประธานาธิบดีจีนยังได้เดินทางไปพบผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้นำจีนอาจยังไม่พอใจสภาพเศรษฐกิจของประเทศเท่าไหร่นัก และอาจทำให้รัฐบาลตัดสินใจเพิ่มงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอีกในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้ การที่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่แล้วออกมาดีกว่าคาด แสดงให้เห็นว่า แม้เศรษฐกิจจีนอาจยังไม่กลับมาร้อนแรงเหมือนในอดีต แต่ก็กำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องนี้ส่งผลต่อนักลงทุนอย่างไร?

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ดูเหมือนว่าทางการจีนมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างจริงจัง แต่ในปัจจุบัน พวกเขายังคงเลือกใช้นโยบายกระตุ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปและมั่นคง ซึ่งหากจำเป็น รัฐบาลก็ยังมีงบประมาณและเครื่องมือมากพอที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนไปที่จีนยังสมเหตุสมผล โดยลงทุนในสัดส่วนที่เทียบเท่ากับสัดส่วนระหว่างมูลค่าตลาดหุ้นจีนกับตลาดหุ้นโลก (Market-weighted) โดยพอร์ต General Investing ของเราได้จัดสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างหุ้นจีนและหุ้นทั่วโลกไว้แล้วผ่าน ETF ดัชนีตลาดเกิดใหม่และดัชนีตลาดโลกโดยรวม

📰 ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ยุโรปได้อย่างก็ต้องยอมเสียอย่าง

ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลาย คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับ Sangria และ Paella จากนั้นคุณอาจขับรถต่อไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อดื่มด่ำกับ Champagne และ Escargot ได้ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจยุโรปที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ 

ที่สเปน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยไม่เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. และอีกเรื่องดีก็คือ เศรษฐกิจสเปนในไตรมาส 3 ยังขยายตัว 0.3% YoY

ขณะที่เยอรมนี แม้เงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดย GDP ในไตรมาส 3 ลดลง 0.1% QoQ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่า เศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของยุโรปกำลังมุ่งหน้าสู่ Recession จึงอาจเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มควบคุมเงินเฟ้อได้ หลังต่อสู้ปัญหาดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และหากเงินเฟ้อไม่รุนแรงขึ้น ECB ก็จะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจได้ หากยุโรปเข้าสู่ Recession ในระยะข้างหน้า

เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize

🎓ศัพท์โลกการลงทุน: Economic Stimulus

Economic Stimulus หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการกระดกช็อต Espresso ในตอนเช้าเพื่อปลุกให้ร่างกายกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ หากเศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลและธนาคารกลางจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ลดภาษี หรือใช้นโยบายส่งเสริมต่างๆ รวมกันเป็น Stimulus Package เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ